จะให้รางวัลลูกอย่างไร? ให้สมเหตุสมผล

พ่อแม่ทุกคนหวังอยากให้ลูกๆเชื่อฟัง ยอมทำตามความคิดและความต้องการของตัวเอง ซึ่งถ้าจะให้เป็นไปตามนั้น พ่อแม่หลายท่านมักใช้วิธีการให้รางวัล หรือการหลอกล่อด้วยผลประโยชน์ต่างๆ เช่น การซื้อของเล่นเป็นการตอบเเทน ซึ่งเเน่นอนวิธีการนี้ มีข้อดีคือ สามารถทำให้เด็กทำตามความต้องการได้ เเต่เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งยิ่งทำบ่อยครั้ง อาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ชอบผลประโยชน์ด้านวัตถุและติดกับการใช้ข้ออ้างเพื่อให้ได้รางวัลตั้งเเต่เด็ก

เเละเมื่อไม่มีสิ่งของที่ต้องการ พวกเค้าอาจหมดความอดทนในการเชื่อฟังเรื่องต่างๆ เเละหากระหว่างพ่อแม่ลูกมีความสัมพันธ์แบบการติดสินบนเเบบนี้ไปเรื่อยๆ ครอบครัวจะขาดความเอื้ออาทรและเด็กอาจเติบโตขึ้นพร้อมนิสัยมีข้ออ้างเพื่อแลกกับสิ่งของที่ต้องการก็เป็นไปได้

เเน่นอนรางวัลที่พูดถึง มีทั้งข้อดีเเละข้อเสีย แล้วครอบครัวจะให้รางวัลกับลูกอย่างไร ? เพื่อให้สมเหตุสมผล

1. อย่ารับปากให้รางวัลที่เกินความพอดี

สิ่งที่พ่อแม่ควรคำนึงถึงทุกครั้งคือ ไม่ควรรับปากให้รางวัลที่เกินความพอดี ควรให้รางวัลที่สอดคล้องกับความเป็นจริง เหมาะสมกับความต้องการตามช่วงวัยของลูก ซึ่งสามารถทำตามสัญญาได้ง่ายกว่า มิฉะนั้นเด็กจะพยายามทำเพียงเเค่เอาใจพ่อแม่ หรือทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้รับรางวัล และยิ่งถ้าพ่อแม่ไม่สามารถทำตามสัญญาได้ ย่อมส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในสายตาลูก ก่อให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดีต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว


2. หันมาให้รางวัลด้านจิตใจควบคู่กันไปด้วย

คำพูดให้กำลังใจ สามารถให้กันได้โดยไม่ต้องใช้เงินซื้อหา การเอ่ยคำชมในความพยายาม ความอดทนของเด็กในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จ ย่อมมีค่ามากมายมหาศาลเมื่อคนในครอบครัวมอบให้กัน รางวัลด้านวัตถุอาจกระตุ้นความสนใจในช่วงระยะเวลาสั้นๆตามความรู้สึกต้องการในขณะนั้นของเด็ก แต่รางวัลด้านจิตใจนั้น กลับทำให้เด็กอิ่มเอมใจมากกว่าเเละนานกว่าอีกด้วย

การให้รางวัลสำหรับลูก บางครอบครัวมองว่าเป็นการให้ที่สมเหตุสมผลเเล้ว เพราะลูกทำดี, อยู่ในโอวาทเเละเชื่อฟังคำสั่งสอน เเต่"การให้รางวัลที่เหมาะสม" ควรอย่าเกี่ยวพันคำสัญญากับของรางวัล เเต่ควรมุ่งเน้นการให้รางวัลด้านจิตใจเป็นหลักมากกว่า เช่น การยกย่องชมเชย, ให้กำลังใจ เพื่อทำให้เค้ารับรู้ถึงความสำเร็จเเละความสุขใจ ซึ่งมีบทบาทเเละความหมายที่สำคัญยิ่งกว่าการให้รางวัลด้วยวัตถุสิ่งของ